แก่นใจสาววัย 20 จากท้องทุ่งต้องใจสั่นระทึกเมื่อรถที่เธอนั่งมาจอดที่หน้าบริเวณรั้วกว้างใหญ่สวยงาม ภายในมีสนามหญ้าประดับสวนดอกไม้นานาพันธ์และถนนกว้างทอดจากปากประตูไปสู่ตัวคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งตระหง่าน ทีหน้าประตูรั้วอัลลอยมีตัวหนังสือสีทองติดว่า “บ้านเทพเนรมิตร ” โดยที่แก่นใจเพิ่งรับรู้มาเมื่อสามวันก่อนนี้เองว่าเธอก็เป็นหนึ่งในทายาทของตระกูลนี้เมื่อคุณหญิงโฉมเฉลาได้เดินทางไปขอเธอจากตาและยายที่บ้านทุ่ง
เดิมแล้วทั้งตาและยายของแก่นใจต่างก็เป็นคนรับใช้ในบ้านเทพเนรมิตรมาก่อนโดยที่แม่กุหลาบของเธอเป็นคนรับใช้คนสนิทของคุณหญิงโฉมเฉลา ด้วยความใกล้ชิดทำให้คุณประสิทธิ์ลูกชายของคุณหญิงกับกุหลาบรักกันและแอบลักลอบได้เสียกันทั้งที่คุณประสิทธิ์ก็มีภรรยาคือคุณนายเพลินพิศอยู่แล้ว แต่คุณประสิทธืมิได้รักคุณนายเพลินพิศเลยเนื่องจากถูกคุณหญิงบีบบังคับให้แต่งงานเพราะศักดิ์ศรีฐานะเท่าเทียมกัน จนกระทั่งความแตกเมื่อกุหลาบได้ตั้งท้องขึ้น คุณหญิงและคุณนายจึงได้บีบบังคับให้ทั้งสามออกจากบ้านโดยที่คุณประสิทธิ์ช่วยเหลืออะไรไม่ได้ ตาและยายจึงหอบหิ้วกุหลาบซึ่งตั้งท้องอ่อน ๆ กลับบ้านทุ่งและคลอดแก่นใจออกมา ต่อมาไม่นานกุหลาบก็ตรอมใจตายด้วยผิดหวังในความรัก จนกระทั่งเมื่อสองปีก่อนหน้านี้คุณประสิทธิ์ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง ก่อนตายได้ขอร้องคุณหญิงให้ช่วยรับลูกซึ่งเกิดกับกุหลาบให้เป็นหนึ่งในทายาทเทพเนรมิตร จึงเป็นต้นเหตุให้แก่นใจเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในคฤหาสน์โลกีย์แห่งนี้
ตามธรรมดาของสมาชิกใหม่ แก่นใจถูกแนะนำให้รู้จักกับคนในบ้านนอกจากคุณหญิงโฉมเฉลาผู้เป็นประมุขของบ้านแล้วแก่นใจรู้ถึงความไม่เป็นมิตรจากสามแม่ลูกอันประกอบไปด้วยคุณนายเพลินพิศซึ่งมีอายุสี่สิบปีแล้วแต่ใบหน้ายังสวยดูอ่อนกว่าวัยเหมือนกับอายุสามสิบต้น ๆ ผิวกายขาวผ่อง รูปร่างอวบอั๋นแต่งกายด้วยเสื้อผ้าราคาแพงหอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นน้ำหอม บนใบหน้าที่แต่งด้วยเครื่องสำอางค์และแววตาที่แวววาวนั้นแก่นใจรับรู้ได้ถึงความจงเกลียดจงชังและดูถูกเหยียดหยาม มองเธอตั้งแต่หัวจรดท้ายรับไหว้เธออย่างเสียไม่ได้
ส่วนลูกสาวทั้งสองคนนั้น คนโตชื่อ เบญจวรรณอายุ 22 ปี คนเล็กชื่อ วิชุตาอายุ 18 ปีทั้งสองสาวต่างก็สวยสดผิวขาวผ่องเหมือนแม่ ใบหน้าส่อแววเย่อหยิ่ง แต่งกายนำสมัยด้วยเสื้อและกางเกงรัดรูปจนเห็นส่วนโค้งส่วนเว้า โชว์หน้าอกอวบใหญ่พุ่งราวกับจะทะลุเสื้อผืนน้อยช่วงเอวคอดกิ่วหน้าท้องแบบราบ ช่วงสะโพกกลมผายแน่นในกางเกงสีสดจ้าฟิตเปรี๊ยะจนมองเห็นเค้าโครงโคกนูนกลางหว่างขา ทำเอาเจ้าพวกคนใช้หนุ่ม ๆ แอบเอาไปฝันถึงหลายคน แต่ไม่มีใครกล้ายุ่งกับเธอทั้งสองเพราะความร้ายกาจเอาแต่ใจตัวเอง ที่พอจะเป็นมิตรกับแก่นใจหน่อยก็คงเป็น วิศนุ บุตรชายคนรองของคุณนายเพลินพิศวัย 20 ปี ซึ่งดูไม่ค่อยเรื่องมากเท่าไหร่
แต่สำหรับพวกคนใช้นั้นแก่นใจรู้สึกว่าเข้ากับเธอได้ดีรู้สึกสะบายใจไม่ต้องเกร็งเมื่อได้มาพูดคุยด้วยซึ่งประกอบไปด้วยป้าแช่มแม่ครัวและลุงผายกับนายมิ่งหลานชายที่ทำหน้าที่ดูแลสวน แต่ที่แก่นใจสนิทสนมเป็นพิเศษกลับเป็น แจ๋ว สาวใช้ อาจเป็นเพราะทั้งสองต่างก็มีพื้นเพมาจากท้องทุ่งและวัยเดียวกัน ส่วนท่ไม่ชอบก็ตือนายเชิดคนขับรถหน้าเหลี่ยมวัยกลางคนที่แววตาของมันมองแก่นใจราวกับจะจ้องให้ทะลุเสื้อผ้าให้เห็นเนื้อในทำให้เธอต้องขนลุกเกลียว
คืนแรกในบ้านเทพเนรมิตรนั้นแก่นใจนอนไม่หลับซึ่งอาจจะเป็นเพราะความแปลกใหม่ต่อสถานที่ก็ได้เธอจึงลุกขึ้นมาเดินมาตรงหน้าต่างห้องมองไปทางสวนท้ายตึกที่มีแต่ความเงียบสงบ แต่แล้วเธอต้องชะงักเมื่อเห็นร่างตะคุ่มของใครคนหนึ่งที่เดินลงมาจากตัวตึกชั้นล่าง ประตูที่เปิดถูกงับเข้าไปตามเดิม ร่างนั้นหยุดมองซ้ายมองขวาจนแน่ใจว่าไม่มีใครเห็นแล้วออกเดินอย่างเร็วไปทางเรือนไม้โดดเดี่ยวที่มีโรงเก็บรถต่อยาวออกไปจากเรือนไม้ชั้นเดียวนั้น
ใครกันนะ ดึกป่านนี้ยังไม่หลับไม่นอน แถมเวลาเดินออกไปจากตัวตึกก็มีพิรุธ ชุดที่ใส่ก็ดูรุ่มร่ามคล้ายกับชุดนอนผู้หญิง แก่นใจชักอยากรู้อยากเห็นจึงปิดไฟในห้องนอนจนมืดแล้วเปิดประตูย่องออกไปจากห้องทันที ถึงแม้ภายในตัวคฤหาสน์ของเทพเนรมิตรจะตกอยู่ในความมืดแต่แก่นใจก็เดินลงจากบันไดชั้นบนลงมาชั้นล่างอย่างไม่ยากเย็นนัก ประตูหลังของตึกใหญ่ถูกดันออกอย่างไม่ยากเย็นนัก เพราะมีผู้ออกไปก่อนหน้านี้ไม่ได้ล็อคไว้เพียงแต่งับไว้เฉย ๆ แก่นใจเดินออกจากประตูหลังของตัวตึกก้าวตามร่างนั้นที่หายไปทางเรือนไม้ชั้นเดียวที่อยู่ติดกับโรงรถอย่างระมัดระวังจนมาถึงเรือนไม้ชั้นเดียว มันเป็นห้องที่ไม่ใหญ่นักมีแสงสว่างลอดออกมาเป็นจุดกลมเล็ก ๆ คล้ายรอยแตกของไม้จากการตอกตะปูแล้วถอนออก เสียงครางแผ่ว ๆ ของผู้หญิงดังลอดออกมายิ่งทำให้แก่นใจอยากรู้อยากเห็นเพิ่มมากยิ่งขึ้น เธอจึงแนบสายตาตรงรอยแตกนั้นทันที แล้วแก่นใจก็ต้องสะดุ้งกับภาพที่เห็น ในห้องที่กระทัดรัดนอกจากเตียงนอนแล้วยังมีโต๊ะขนาดกระทัดรัดคล้ายโต๊ะเขียนหนังสือ แต่ภาพที่ทำให้แก่นใจต้องสะดุ้งนั้นคือตรงกลางห้องมีร่างหนึ่งขาวหนึ่งดำของหญิงชายคู่หนึ่งที่ต่างก็เปลือยกายล่อนจ้อนยืนกอดจูบกันกลมดิก ไอ้ผู้ชายน่ะแก่นใจจำได้ว่าเป็นนายเชิดคนขับรถหน้าเหลี่ยม แต่ร่างขาวท้วมอวบอั๋นที่ยืนแอ่นร่างเปลือยกอดรัดร่างของเจ้าเชิดนั้นเธอไม่เห็นหน้า เห็นแต่ด้านหลัง สะโพกอวบผายใหญ่ขาวจั๊วะถูกมือหยาบดำของเจ้าเชิดบีบบี้ลูบคลำแก้มก้นชาวนั้นอยู่ไปมา ” อูย….ดับไฟเถอะ….เชิด..เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า….อูย….เสียวจัง….” ก็ทำไมจะไม่เสียวเมื่อท่อนล่างของแม่สาวร่างอวบขาวนั้นถูกท่อนควยยาวใหญ่มหึมาที่แก่นใจเห็นแล้วยังอดสยองใจไม่ได้ ท่อนควยดำทะมึนยาวใหญ่ของเจ้าเชิดเสียดสีอยู่ตรงหว่างขาของสาวร่างอวบขาวนั้น ส่วนท่อนบนนั้นนมขาวสองเต้าแบนทะลักออกมาสองข้างเพราะถูกอกดำใหญ่เปลือยที่เต็มไปด้วยขนบนแผงอกของเจ้าเชิดเสียดสีไปมา ” อูย…เสียวเหลือเกิน……เชิดจ๋า…ดับไฟเถอะ……อูย….ซี๊ด….” แม่สาวร่างขาวอวบแหงนหน้าครางขณะที่เจ้าเชิดจูบไซร้จากซอกคอลงมาสองเต้านมอวบใหญ่อย่างหื่นกระหายพรางดันร่างขาวอวบหันไปพิงฝาห้อง ทำให้แก่นใจต้องกระพริบตาด้วยไม่เชื่อต่อสายตาเมื่อเห็นหน้าร่างขาวอวบ นั่นมันคุณนายเพลินพิศผู้สูงส่งในสายตาของเธอ แก่นใจคิดไม่ออกว่าทำไมคุณนายถึงใฝ่ต่ำมาเล่นเสียวกับคนขับรถซึ่งดูแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้ เจ้าเชิดนั้นทั้งดำทั้งผิวกายหยาบกร้าน ผิดกับคุณนายเพลินพิศที่ทั้งขาวทั้งสวยผิวกายละเอียดอ่อนรักษาทรวดทรงเป็นอย่างดีถึงแม้จะเข้าวัยกลางคน คุณนายเพลินพิศตอนนี้ช่างผิดกันกับที่เธอเห็นตอนกลางวันราวกับเป็นคนละคนจากใบหน้าขาวเชิดวางมาดเป็นผู้ดีมีเงินนั้นเปลี่ยนเป็นใบหน้าหวานเยิ้มยั่วเซ็กส์ ดวงตาปรือเยิ้ม ริมฝีปากแดงบางนั้นยิ้มมุมปากน้อย ๆ ยืนแอ่นพิงผนังห้องเปลือยร่างขาวอวบให้เจ้าเชิดเชยชม ” ไม่ต้องปิดไฟหรอกครับ….คุณนายทั้งขาวทั้สวยออกอย่างนี้…..ถ้าปิดไฟผมก็ไม่ได้เห็นความงามของคุณนายน่ะซื…..” เจ้าเชิดพูดพรางจูบไซรัเลื่อนต่ำลงมาที่แผ่นท้องขาวแบนราบ แก่นใจจึงเห็นเต้านมขาวจั๊วะอวบใหญ่นั้นถนัดตา มันคล้อยต่ำลงมานิดหนึ่งเพราะความใหญ่แต่ไม่ถึงกับหย่อนยาน หัวนมสีน้ำตาลอ่อนลุกชูชัน ” อูย…ซี๊ด…เสียวจังเลย….เชิดจ๋า…ซี๊ด…” คุณายเพลินพิศร้องครางเบา ๆ เมื่อเจ้าเชิดชู้รักเลื่อนหน้าลงไปจูบไซร้อยู่บนเนินโคกหีโหนกใหญ่ซึ่งปกคลุมไปด้วยเส้นหมอยดำสนิทราวกับเส้นไหม
